ในบทความนี้ผู้เขียนจะขอคาดเดาแนวโน้มเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนในปีนี้ โดยนับตั้งแต่ Apple เปิดตัว iPhone ตระกูล X เป็นต้นมาดูเหมือนจะเป็นโอกาสทองของยี่ห้ออื่นๆที่ฉวยโอกาสเรื่องราคาที่ถูกกว่าหลายเท่าจนทำให้ Apple หรือแม้แต่ Samsung ได้รับผลกระทบเต็มๆ โดยในปีนี้คาดว่าสิ่งที่จะเห็นแน่ๆก่อนเลยคือการเพิ่มจำนวนกล้องหน้าและหลัง ยืนพื้นที่ 2 ตัวสำหรับรุ่นที่ราคาต่ำกว่าหมื่น และไม่น้อยกว่า 4 ตัวในรุ่นที่แพงกว่านั้นเล็กน้อย เพื่อรองรับการถ่ายภาพที่อาศัย AI เข้ามาช่วยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพนั่นเอง และสิ่งที่ตามมาอีกแน่นอนก็คือความฉลาดของ AI ในกล้องนี่แหล่ะที่จะช่วยให้การถ่ายภาพง่ายกว่าที่เคย เพราะ AI จะช่วยวิเคราะห์และปรับแต่งผลสุดท้ายของการถ่ายภาพให้หมด สรุปก็คือผู้ใช้มีหน้าที่แค่กดถ่ายก็อย่างเดียวไม่ต้องคิดอะไรมากเพราะ AI ช่วยคิดให้หมดแล้วนั่นเอง จริงๆแล้วคุณสมบัติพวกนี้แทบจะเป็นฟีเจอร์พื้นฐานในรุ่นที่ราคาต่ำกว่าหมื่นมาสักระยะแล้วเพียงแต่ AI ปีที่แล้วคงจะสู้ปีนี้ไม่ได้
ต่อมาเป็นลูกเล่นพื้นฐานที่จะถูกจับยัดไว้ทุกรุ่นแน่ๆ คือ ปลดล็อกด้วยใบหน้า และลายนิ้วมือสัมผัสหน้าจอไม่ใช่บนเซนเซอร์ นอกนั้นเราจะก็เห็นขนาดของขอบจอเล็กลงทุกที จนทำให้คิดว่าก่อนสิ้นปีนี้เราอาจจะได้เห็นทุกรุ่นทุกยี่ห้อเป็นแบบจอไร้ขอบทั้งหมดเลยก็เป็นได้
แต่ว่าการที่มีกล้องมากขึ้นและจอกว้างขึ้นก็นำมาซึ่งการกินพลังงานมากขึ้นเช่นกัน โดยที่แบตเตอร์รี่เป็นหนึ่งในสิ่งที่พัฒนาช้ามากหรือแทบจะไม่มีการพัฒนาเลยในบางช่วง ดังนั้นหากต้องการใช้อะไรที่กินพลังงานมากขึ้น ผู้ผลิตก็คงต้องแอบลดบางอย่างลงเพื่อชดเชย เช่น อาจจะลดความเร็ว CPU, GPU, RAM ถึงกระนั้นก็คงลดลงไม่มาก เพราะว่าพวกผู้ผลิต CPU RAM มีการพัฒนาให้กินไฟน้อยลงได้เรื่อยๆอย่างต่อเนื่องมาหลายปีแล้ว ตรงนี้ผู้ใช้ทั่วไปอาจจะไม่ได้สนใจ แต่สำหรับพวกที่มีความรู้ด้านฮาร์ดแวร์จะให้ความสำคัญ ดังนั้นก็น่าจะช่วยยืดการใช้แบตได้จนอาจจะไม่รู้สึกว่าหมดเร็วกว่าเดิม
อีกอย่างหนึ่งที่จะตามมาให้เห็นชัดๆก็คือ สมาร์ทโฟนรุ่นที่ทำมาเพื่อเกมเมอร์โดยเฉพาะโดยที่ราคาแค่หลักพันกลางๆ รองรับตลาดเกมแบบเต็มตัว ซึ่งทั้งหมดนี้ก็มาจากครั้ง iphoneX รุ่นแรกออกมาล้วนๆที่วางราคาไว้สูงมากซะจนยี่ห้ออื่นลักไก่เพิ่มคุณสมบัติทั้งหมดที่ iphoneX มีในราคาหลักพัน จึงกลายเป็นมาตรฐานขั้นต่ำของสมาร์ทโฟนในปีนี้ทั้งหมดไปเลย