ระบบเครือข่ายอัจฉริยะยุคใหม่นี้ หนึ่งในนั้นคือระบบที่เรียกว่า Cloud Computing ซึ่งก็ได้้เคยนำเสนอในบทความก่อนๆ(โน้น)ไปแล้ว ทีนี้บทความนี้จะยกตัวอย่างการใช้งานที่เกิดประโยขน์จริงในชีวิืตประจำวันหรือชีวิตการทำงานทั่วไป นอกจากการใ้ช้บริการของ Google Document หรือปัจจุบันเปลี่ยนเป็น Google Drive ที่ท่านสามารถพิมพ์เอกสารเดียวกันพร้อมกันได้ครั้งละหลายๆคนแล้ว บทความนี้มาถึงการใช้งาน icloud ที่มาพร้อมกับทุกผลิตภัณฑ์ของ Apple ซึ่งเรื่องมันมีง่ายๆคือ คุณทำหรือบันทึกอะไรก็ตามในอุปกรณ์หนึ่ง มันก็จะไปกระทำหรือบันทึกสิ่งนั้นบน Application เดียวกันในทุกอุปกรณ์ของ Apple ที่คุณมีุทันที่ที่อุปกรณ์ันั้นเชื่อมต่ออินเตอร์เนตและเปิดบริการ icloud ไว้ เช่้น ถ้าหากคุณถ่ายรูปด้วย iphone ขณะยืนบนยอดมหาพีรามิด ทันที่รูปภาพถูกบันทึกใน iphone มันก็จะถูกส่งไปบันทึกลงใน ipad ของแฟนคุณขณะเดินชอบปิ้งในโตเกียวด้วย เช่นเดียวกันกับบันทึก นัดหมายต่างๆ ซึ่งจะมีประโยชน์มากในการทำงานและพักผ่อนของคุณ
|
ตัวอย่างการเขียนโน๊ตด้วย iphone และไปปรากฎบน ipad ทันที |
ความจริงก็คือถ้าหากใครที่มี tablet ในทีนี้ขอยกตัวอย่างเป็น ipad คุณจะใช้เวลาทุกอย่างที่เคยเปิดคอมพิวเตอร์มาส่้องมาลูบบน ipad แทนแทบจะ 100% ของกิจกรรมทางอินเตอร์เนต และความจริงกว่านั้นก็คือพวกคนเหล่้านี้ไม่ต้องการที่จะวางมันลงเพื่อไปดูอะไรอย่างอื่น เช่น นัดหมาย ตารางงานที่จดไว้ในหน้าไหนก็ไม่รู้แถมยังวางไว้ในรถอีก ซึ่งปัญหานี้เหมือนไม่ใช่ปัญหา แต่เชื่อเถอะว่าระบบ icloud ช่้วยให้เราสะดวกสบายขึ้นอย่างชาญฉลาดได้ เพราะคุณไม่จำเป็นต้องวาง ipad ลงเลยสักวินาทีเดียวโดยที่คุณไม่เสียงาน ไม่ลืมกำหนดการใดใดทั้งสิ้น เพราะคุณสามารถเห็นทุกอย่างได้บน app ที่อยู่บน ipad และมันคือสิ่งที่คุณเพิ่งจะใช้ iphone จดบันทึกไว้ตลอดทั้งวันก่อนกลับบ้าน
และทางกลับกันถ้าหากคุึณใช้ ipad บันทึกในการประชุม หรือบันทึกกำหนดการนัดหมายสำคัญไว้ แต่แน่นอนว่าคุณคงไม่สะดวกที่จะเปิด ipad มาดูในทุกเวลาแน่ เช่น ขณะำเดินทาง ขับรถ หรือรับประทานอาหาร มันจะดีทีเดียวถ้าหากสิ่งที่ึคุณบันทึกด้วย ipad มาปรากฎบน iphone ในมือคุณโดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลามันนั่งคัดลอกข้อมูลเหล่านั้นจาก ipad มายัง iphone ด้วยมืออีกที ใช่แล้วครับ คุณสามารถดูกำหนดการรนัดหมายได้ทันทีแค่พลิก iphone ขึ้นมาดูซึ่งถือว่ากระทำได้คล่องตัวมากกว่า ipad มาก นี่คือความสะดวกที่ได้และเป็นประโยชน์ต่อการทำงานและขณะพักผ่อนกับการใช้ ipad บนโซฟาที่บ้าน แต่นี่คือการทดลองใช้แค่ของ Apple เท่านั้น ของทางฝั่ง Samsung กับ Android และ Nokia กับ Windows Phone นั้นคงต้องขอไปหาโอกาสมาลองใช้ดูก่อนแล้วจึงจะเปรียบเทียบกันได้แบบหมดจด แต่อย่างไรก็ตามก็ถือว่าเราได้ประโยชน์จากการ Cloud Computing ถ้ารู้จักการนำมาประยุกต์ใช้ในการทำงาน และปัจจุบันนี้ก็มีซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยหรือกำจัดไวรัสหลายยี้ห้อนำระบบ Cloud มาใช้เพื่อกระจายข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านไวรัสกันแล้วเพื่อความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงทีนั่นเอง สรุปก็คืออุปกรณ์ไหนหรือหน้าจอไหนที่เราใช้เวลากันมันบ่อยๆ เราก็อยากให้สิ่งที่เราจดบันทึกไว้ทั้งวันที่ผ่านมามาปรากฎบนหน้าจอของสิ่งนั้นด้วยเพื่อจะได้ไม่ต้องเปิด หยิบอะไรกลับไปกลับมา นี่คือประโยชน์ของ Cloud ที่เราๆพอจะหากันได้ในตอนนี้