1.เมื่ออยู่ในสภาพพับเก็บแล้ว ต้องมีความหนาไม่เกิน 20 มิลลิเมตร
2.มีน้ำหนักรวมแบตเตอร์รี่แล้วไม่เกิน 1.5 กิโลกรัม
3.ตื่นจากภาวะ Deep Sleep ในเวลาไม่เกิน 4 วินาที
4.ทำงานด้วยแบตเตอร์รี่ได้ยาวนานกว่า 5 ชั่วโมง
5.มี Port USB 3.0
6.ใช้ CPU ของ Intel ( เนื่องจาก Intel เป็นผู้พัฒนาแนวคิด )
7.ใช้ Harddisk แบบ SSD
จะเห็นได้ว่า UltraBook นั่นมีคุณสมบัติเฉพาะที่ออกมาแข่งขันกับ Apple MacBook Air ได้อย่างสบายโดยเฉพาะราคาที่ถูกกว่าแน่นอน แต่อย่างไรก็ดี UltraBook ในระยะแรกนั้นไม่ได้ทำมาเพื่อเน้นงานหนักๆหรือเล่นเกมสามมิติ แต่ออกแบบมาเน้นความคล่องตัวสำหรับงาน Office หรืออินเตอร์เนตมากกกว่า โดยจะเห็นได้ว่าความบางและน้ำหนักของ UltraBook นั้นแทบจะไม่ตางจาก Tablet เลย นี่คือสิ่งที่หน้าสนใจทีเดียวว่าในอนาคตต่อไป UltraBook จะเข้ามาปราบ Tablet ได้หรือไม่ เนื่องจาก Tablet ทำในสิ่งที่ UltraBook ทำไม่ได้ในขณะที่สามารถพกพาได้คล่องตัวพอๆกัน หรือแม้แต่ Apple Macbook เองก็คงจะได้รับผลกระทบไม่มากก็น้อยเช่นกัน เพราะในเรื่องความสวยงามของ UltraBook นั้นเท่าที่่เห็นในตลาดตอนนี้ UltraBook จะใช้วัสดุชนิดพิเศษกว่า Notebook ทั่วไปคือมักจะเป็นพลาสติกผสมอะลูมิเนียมที่ทำออกมาได้อย่างลงตัว ใครถือแล้วดูดีขึ้นมาทันที นอกจากการหันมาใช้ Harddisk แบบ Solid นั้นจะลดเสียงรบกวนและความอืดอาดจาก Harddisk แบบเดิมได้อีกด้วย เพราะมันไม่ใช้จานหมุนที่ยุ่งยากและกินไฟอีกต่อไปแล้ว นี่ก็เป็นเทรนด์ใหม่อีกสิ่งหนึ่งที่คาดว่าน่าจะมาแทนที่แบบเดิมทั้งหมดภายในปี 2014
สำหรับสเปคและราคาของ UltraBook ทั่วไปทุกยี้ห้อในขณะนี้ส่วนใหญ่จะใช้ CPU ตั้งแต่กลางค่อนข้างสูงขึ้นไปของ Intel กับหน่วยความจำ RAM ประมาณ 4 GB และHarddisk ถ้าเป็นแบบ SSD ล้วนๆก็อาจจะได้ความจุไม่มาก อาจจะไม่ถึง 250 GB ทำให้ UltraBook บางรุ่นนิยมที่จะติดตั้ง Harddisk แบบจานหมุนเดิมมาใช้งานร่วมด้วย และ UltraBook ทั่วไปจะไม่มีหน่วยประมวลผลกราฟฟิคความเร็วสูงมาให้ เพราะเน้นงานทั่วไปและความประหยัดพลังงานเป็นหลัก ดังนั้นพวกคอเกมคงต้องรอกันอีกสักระยะ(ยาวๆ) สุดท้ายราคาของ UltraBook ขณะนี้จะอยู่ในระดับประมาณ 3 หมื่นต้นๆ และลดลงเรื่อยๆ