ทุกวันนี้เครือข่าย 3G เปิดให้บริการในประเทศไทยอย่างเต็มปากเต็มคำแล้ว เหลือเพียงให้เต็มพื้นที่ทั่วไปเท่านั้น ตอนนี้ใช้ได้ในจังหวัดใหญ่ๆ หลายจังหวัดแล้ว และมันก็มาได้ถูกที่ถูกเวลาเหลือเกินในยุคที่คนติด Facebook, Twitter กันงอมแงมแถมยังเล่นโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย ดังนั้นแน่นอนว่าใครๆก็คงต้องอยากใช้ 3G แบบหลีกเลี่ยงไม่ได้ และขณะนี้ก็มีผู้ให้บริการ 3G สำหรับเครือข่ายโทรศัพท์มือถืออยู่ 3 รายในประเทศไทย คือ AIS  DTAC และ TRUE แต่ทว่าปัญหามันมีอยู่ว่า แพคเกจการให้บริการของทุกรายนั้นมีคความซับซ้อนที่ต้องทราบอยู่เล็กน้อยเพื่อความคุ้มค่าในการใช้บริการที่สุด
      โดยรูปแบบการให้บริการประเภท Non-Voice หรือ Data นั้นตั้งแต่ยุคของ GPRS แล้วที่ผู้ให้บริการจะให้ลูกค้าได้เลือกการคิดค่าบริการสองแบบคือ 1.คิดค่าบริการตามระยะเวลาที่เชื่อมต่อ และ 2.คิดค่าบริการตามปริมาณข้อมูลที่ใช้  ซึ่งผู้ใช้แต่ละคนย่อมมีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกัน จึงมีการคิดค่าบริการที่แตกต่างกันนี้ขึ้นมาเพื่อให้คุ้มค่ากับผู้ใช้มากที่สุดนั่นเอง
      มาดูการคิดค่าบริการแบบคิดตามระยะเวลาก่อน อันนี้คงไม่มีอะไรซับซ้อนมากก็คือยิ่งเชื่อมต่อนานก็ยิ่งเสียเงินมากตามแพคเกจที่เลือก เช่น 99 บาท 10 ชม. โดยแพคเพจคิดตามระยะเวลานี้จะเหมาะสำหรับคนที่ชอบการดาวน์โหลดสิ่งต่างๆบนเว็บ เช่น Application ต่างๆ, คลิป, เพลง, ไฟล์แนบ รวมถึงการเข้าเว็บไซต์ที่ไม่ได้ออกแบบสำหรับ Mobile ด้วย ถ้าท่านใช้งานลักษณะนี้เหมาะมากที่จะสมัครแพคเกจแบบคิดค่าบริการตามระยะเวลาที่เชื่อมต่อ แต่ข้อควรระวังอย่างยิ่งก็คือถ้าหากเลิกใช้งานแล้วอย่าลืมที่จะตัดการเชื่อมต่อเพราะอย่าลืมว่าเขาคิดเงินตามระยะเวลาที่เราอยู่กับเขา
     แบบที่สองคือคิดค่าบริการตามปริมาณการใช้งานหรือคิดตามปริมาณข้อมูลที่ไหลผ่านเครื่องเรา ผู้สมัครแพคเกจนี้สามารถเชื่อมต่อได้นานเพียงใดก็ได้จะไม่เสียเงินตราบใดที่ไม่มีกิจกรรมใดใดบนอินเตอร์เนต แพคเกจคิดค่าบริการตามปริมาณข้อมูลนี้จะเหมาะสำหรับผู้ที่เล่นสาย chat หรือผู้เสพย์ติด Facebook ที่ต้องใช้เวลาอยู่กับหน้าจอนานๆ  หรือเข้าเว็บไซต์แต่เฉพาะในหน้าเว็บที่ออกแบบสำหรับ Mobile โดยเฉพาะ เพราะการใช้งานลักษณะนี้จะมีการใช้ปริมาณข้อมูลที่น้อย จึงเหมาะกับแพคเกจนี้และไม่ต้องกังวลเรื่องการเชื่อมต่ออีกด้วยเพราะไม่จำกัดระยะเวลาเชื่อมต่อ แต่ก็ต้องระมัดระวังในการเข้าเว็บไซต์หรือดาวน์โหลดใดใดที่มิได้ออกแบบมาสำหรับ Mobile ที่จะมีปริมาณข้อมูลขนาดใหญ่ก็จะทำให้แพคเกจของเราหมดเร็ว

      ส่วนความเร็วของระบบ 3G ในบ้านเราขณะนี้ยังเป็น 3G เวอร์ชั่นแรกที่ความเร็วสูงสุดอยู่ที่ 7.2 Mbps ซึ่งจะพัฒนาเป็น 3.9G ความเร็ว 21 Mbps ในอนาคตอันใกล้ และยังมีข้อสังเกตอีกด้วยในเรื่องย่านความถี่ที่เปิดให้บริการที่แต่ละค่ายนั้นมีความแตกต่างกัน ที่มีผลทำให้โทรศัพท์มือถือบางรุ่นไม่สามารถใช้งานได้กับบางย่านความถี่หรือบางผู้ให้บริการ ถึงแม้ว่าโทรศัพท์รุ่นนั้นจะรองรับ 3G ก็ตามแต่หากไม่รองรับย่านความถี่ที่ท่านใช้บริการอยู่ก็ไม่สามารถเชื่อมต่อได้