รูปร่างหน้าตาของมันจริงๆแล้วมันก็ควรจะเหมือนการ์ดอื่นๆ ก็มี pin ทองเหลืองไว้เสียบกับ Slot เหมือนกัน เพียงแต่อาจจะใช้ Slot ที่แตกต่างจากการ์ดอื่นๆ หน่อย ซึ่งปัจจุบันนี้ใช้ Slot แบบ PCI Express แต่ในที่สุดแล้วมันก็ไม่เหมือนการ์ดอื่นๆ เพราะกราฟฟิคการ์ดเป็นการ์ดที่มีรูปร่างหน้าตามหัศจรรย์และโอเว่อแอคติ้งมากอย่างเด่นชัด เนื่องจากว่าทุกวันนี้ชิปกราฟฟิคนั้นมีความเร็วที่สูงมากเรียกว่าเป็นน้องๆ ซีพียูได้เลย จึงมีความร้อนสูงมากไม่ต่างจากซีพียู ก็จำเป็นต้องติดตั้งระบบระบายความร้อนมาบนตัวการ์ดด้วย แลัวก็ใหญ่โตอลังการมาก มองไปมองมานึกว่าปืนพรีเดเตอร์ไว้ยิงเอเลี่ยน บางการ์ดถ้าติดตั้งแล้วจะกินเนื้อที่มากจนติดตั้งการ์ดอื่นไม่ได้เลยก็มี เพราะแผงระบายความร้อนมันอลังการสุดๆ
มาถึงเรื่องยี้ห้อรุ่นและผู้ผลิต ปัจจุบันเหลือสองรายใหญ่ เขียวกับแดง คือ Nvidia และ ATi ที่มีชื่อเสียงในวงการเกมสามมิติมานานทั้งคู่ โดย Nvidia ปัจจุบันอยู่ในรุ่นตระกูล Geforce โดยมีสามคลาส สูงสุดคือ Geforce GTX รุ่นรองลงมาคือ Geforce GT และต่ำสุดคือ Geforce เฉยๆ โดยแต่ละรุ่นจะระบุด้วยตัวเลขต่อท้าย เช่น Geforce GT540, Geforce 9600 วิธีการดูว่ารุ่นไหนดีกว่า ก็ดูง่ายๆคือ ตัวเลขมากกว่าก็คือรุ่นสูงกว่านั่นเอง ซึ่งตัวเลขรุ่นใน Desktop และ Notebook อาจจะต่างกันบ้าง และโดยทั้วไปแล้วการ์ด Nvidia มักจะราคาแพงกว่า Ati เสมอ ทั้ง Nvidia และ ATi ก็มีราคาตั้งแค่พันกว่าบาทจนถึงหลายหมื่นบาทในรุ่นแรงๆ เล่นเกมลื่นหัวทิ่ม และ Nvidia มักจะติดตั้งในเครื่องที่ใช้ซีพียู Intel เพราะเขาฮั๊วกัน เช่นเดียวกับฝั่ง Ati ที่เป็นพันธมิตรกับ AMD
ส่วนฝั่ง Ati ปัจจุบันกำลังมาแรงด้วยตระกูล HD เช่น HD5470 HD4350 ก็เช่นเดียวกับ Nvidia คือตัวเลขต่อท้ายระบุรุ่นยิ่งมากขึ้นยิ่งดีขึ้นหรือใหม่กว่า และ ATi ใช้ชื่อนำหน้าว่า HD นั้นเนื่องจาก ATi มีจุดเด่นเรื่องการแสดงผลความละเอียดสูง High Definition ที่ว่ากันว่าทำมาก่อน Nvidia และได้จับมือกับ AMD ซึ่งอาจจะเป็นลักษณะการทำงานที่คล้ายๆกันคือเน้นความแรงไว้ก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน ซึ่งตรงข้ามกับทาง Nvidia ที่กำลังเข้าขากันได้ดีกับ Intel ในเรื่องเน้นความประหยัดพลังงานและเสถียรภาพในระบบมาตลอด โดยปัจจุบันซีพียูตระกูล Core i ของ Intel นั้นมี GPU ในตัวด้วย คือไม่จำเป็นต้องใช้กราฟฟิคการ์ดมันก็แสดงผลได้ดีในระดับหนึ่ง อาจจะไม่แรงมากแต่สิ่งที่ได้มาคือความประหยัดและการลดความร้อน ในขณะที่ Nvidia ก็เติมเทคโนโลยี Optiomus เข้ามาหนุนอีก ก็คือเทคโนโลยีสลับการใช้ชิปกราฟฟิคตามสถานการณ์ ถ้าหากยังใช้งานกราฟฟิคไม่หนักมากระบบจะเลือกใช้ชิปกราฟฟิคบนซีพียู Core i และปิดชิปกราฟฟิค Nvidia ไว้ เพื่อลดความร้อนและประหยัดพลังงาน จะเห็นผลชัดมากเมื่อใช้ Notebook แต่หากเมื่อใดที่ต้องการเล่นเกมสามมิติหนักๆ ระบบจะหันมาเปิดขุมพลังกราฟฟิคบนชิป Nvidia ทันที นี่คือเทคโนโลยี Optimus ของ Nvidia ที่จะแรงเมื่อจำเป็นเท่านั้น แต่ทาง ATi จะเน้นการจัดเต็มตลอดเพื่อความแรงตลอดทุกภาวะการใช้งาน